วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

สาระน่ารู้เกี่ยวกับขิง

ขิงอ่อน เนื้อภายในเหง้าจะมีสีขาวอมเหลือง มีรสเผ็ดและกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่หากเป็นขิงแก่ เนื้อภายในจะมีสีเหลืองอมเขียว และยิ่งแก่ ยิ่งมีรสเผ็ดร้อนมากขึ้น 

คุณสมบัติโดดเด่นของขิง คือ ช่วยในการขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ เนื่องจากสารสำคัญที่อยู่ในน้ำมันหอมระเหยของขิง จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ อีกทั้งการดื่มน้ำขิงยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเมารถได้ หรือหากผสมน้ำมะนาวและเกลือป่นเล็กน้อยลงในน้ำขิง ใช้จิบแก้ไอ และขับเสมหะได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การดื่มน้ำขิงร้อนๆ ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้ดีอีกด้วย

คุณประโยชน์ของขิงจากงานวิจัย
·       กระตุ้นการย่อยอาหารให้ดีขึ้น ในคนไข้ที่มีอาการอาหารไม่ย่อย
·       ลดอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ในกลุ่มสตรีมีครรภ์
·       ช่วยขับ และเพิ่มน้ำนมแม่
·       ลดโคเลสเตอรอล(LDL) และไตรกลีเซอไรด์

ในปัจจุบัน มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มขิงผงสำเร็จรูปซึ่งเป็นเครื่องดื่มชนิดผงที่ช่วยให้การดำเนินชีวิตมีความสะดวกมากขึ้น  เพราะเตรียมได้ง่าย เพียงเติมน้ำร้อนก็สามารถอร่อยกับรสชาติที่กลมกล่อม มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของขิงได้ทันที ให้ความสดชื่น คลายความเครียดจากการทำงาน ดื่มได้ทุกโอกาสระหว่างวัน และยังสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มขิงผงสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพ ที่ให้ผลทางด้านควบคุมน้ำหนัก โดยมีการเติมส่วนผสมเพิ่มเข้าไปดังนี้
แอล-คาร์นิทีน เป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เอง มีประโยชน์ในการช่วยในการเผาผลาญกรดไขมัน เพื่อนำมา สร้างเป็นพลังงานในกล้ามเนื้อ 

วิตามินบี
วิตามินบี 1 (Vitamin B1)  ช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต 
วิตามินบี 2 (Vitamin B2)  ช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
วิตามินบี 3 (Vitamin B3) ช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
วิตามินบี 5 (Vitamin B 5) ช่วยในการใช้ประโยชน์ของไขมัน และคาร์โบไฮเดรต
วิตามินบี 6 (Vitamin B6) มีส่วนช่วยสร้างสารที่จำเป็นในการทำงานของระบบประสาท 

การที่ไม่ใช้น้ำตาลในส่วนผสมแต่ใช้สารให้ความหวานแทน ทำให้ไม่ต้องรับประทานน้ำตาล อันจะทำให้ได้รับพลังงานส่วนเกิน