วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

สารอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเต็มไปด้วยเชื้อโรคต่างๆที่ตามองไม่เห็น เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และปรสิต ซึ่งในแต่ละวันเราต้องสัมผัสกับเชื้อโรคมากมายนับไม่ถ้วน จึงมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยจากเชื้อโรคเหล่านั้น แต่ร่างกายของเรามีกลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่คอยปกป้องจากสิ่งแปลกปลอมรวมทั้งเชื้อโรคเหล่านั้น โดยระบบภูมิคุ้มกันจะมีความสามารถในการทำลายเชื้อโรคโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์ในร่างกาย แต่ถ้าหากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถทำหน้าที่ได้ปกติหรือเสียสมดุลก็จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง    
ดังนั้นจึงควรเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีความสมดุลและแข็งแรง โดยการรับประทานอาหารและวิตามินที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำและลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง เป็นต้น 

สารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย 
เบต้า-กลูแคนจากยีสต์ มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต้านการติดเชื้อ ลดโอกาสการเกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ป่วยภูมิแพ้ รวมทั้งยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งและเสริมการออกฤทธิ์ของยาต้านมะเร็ง
สารสกัดจากเห็ดหลินจือ มีผลการวิจัยรองรับว่ามีสรรพคุณในการช่วยป้องกันหรือรักษามะเร็ง
บางชนิด โรคตับ, การติดเชื้อ HIV, โรคภูมิแพ้, หอบหืด, ปอดอักเสบ และมีส่วนใช้ในการปรับ
ภูมิต้านทานของร่างกายให้สมดุล
สารสกัดจากเห็ดยามาบูชิทาเกะ มีสรรพคุณมากมาย เช่น ต้านความชรา ต้านมะเร็ง
โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมัน แต่ปัจจุบันได้มีงานวิจัยหลายแห่งที่พบคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
สารสกัดจากเห็ดไมทาเกะ มีงานวิจัยหลากหลายที่ยืนยันว่าสารสำคัญในเห็ดไมทาเกะมีส่วนช่วย
ในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวหลายชนิดและช่วยเหนี่ยวนำการทำงานของระบบภูมิต้านทานในการต่อสู้กับเชื้อโรครวมทั้งเซลล์มะเร็ง
วิตามินซี  เป็นวิตามินที่ละลายน้ำ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การสร้างคอลลาเจนและการสังเคราะห์คาร์นิทีน  ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีเองได้ ดังนั้นจึงต้องรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย การรับประทานวิตามินซีพบว่ามีส่วนช่วยในเรื่องการป้องกันและรักษาโรคหวัดได้อีกด้วย
อะเซโรล่าเชอร์รี่สกัด ผลอะเซโรลา เชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าส้มประมาณ 65 เท่า โด
อะเซโรลาเชอร์รี่หนึ่งผลให้วิตามินซีเท่ากับความต้องการของร่างกายในหนึ่งวัน วิตามินซีใน
อะเซโรลาเชอร์รี่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการทำงานของไตให้แข็งแรง เสริมสร้างการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ดูแลสุขภาพเส้นผม ผิวพรรณ และช่องปาก ช่วยป้องกันโรคหวัด การติดเชื้อต่างๆ รวมทั้งต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย
ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ อุดมไปด้วยวิตามินซีแล้วยังมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคมะเร็ง มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย 
สังกะสี ช่วยประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวจึงต้านการติดเชื้อได้ดี และยังมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบจึงปรับสมดุลการทำงานของภูมิคุ้มกันให้กำจัดเชื้ออย่างค่อยเป็นค่อยไป 
แอลอาร์จินีน ควบคุมการสร้างไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ในร่างกายที่ก่อให้เกิดกระบวนการอักเสบจึงมีส่วนช่วยในการต้านการอักเสบ อีกทั้งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ และมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิต้านทานชนิดมีมาแต่กำเนิดและชนิดรับมา จึงมีส่วนช่วยในการต้านไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิต และต้านมะเร็ง




พลูคาว กับภูมิคุ้มกัน

1. รักษาภาวะภูมิแพ้ ภูมิไวเกิน เช่น หอบหืด  ภูมิแพ้ผิวหนัง ชนิด Atopic eczema และ Atopic dermatitis,  เยื่อบุ ตาอักเสบจากภูมิแพ้ Allergic conjunctivitis, หวัดจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis)  การแพ้อาหาร (Food allergy) กลุ่มอาการที่มีสารภูมิแพ้ ไอจีอีสูง (Hyper Ig E syndrome) หรือภูมิต้านทานต่อเนื้อเยื่อตนเอง ได้แก่โรครูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
2. รักษาภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยเป็นส่วนผสมหนึ่งในตัวยา รักษาผู้ป่วยเอดส์และผู้ป่วยมะเร็ง หรือผู้ได้รับสารกดภูมิคุ้มกัน
3. เสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น