ประโยชน์ของใยอาหาร

โดยทั่วไป เมื่อมีกากอาหาร (อุจจาระ) ตกค้างในลำไส้ แบคทีเรียที่มีอยู่ในลำไส้ยังคงทำการย่อยสลายต่อไป และก่อให้เกิดสารพิษได้ ซึ่งหากระบบขับถ่ายปกติ ร่างกายก็จะไม่เกิดสะสมสารพิษเหล่านี้ไว้ เพราะจะขับเป็นอุจจาระออกมาในเวลาไม่นาน อย่างไรก็ตาม หากมีอาการท้องผูก โดยเฉพาะ ผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง  ของเสียที่เป็นสารพิษจะไม่ถูกกำจัดออกไปตามปกติ แต่จะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือดในร่างกายอีกครั้งหนึ่ง ก่อให้เกิดอาการที่เรียกว่า การดูดซึมสารพิษกลับเข้าสู่ตนเอง 

            ภาวะท้องผูกเรื้อรัง จึงเป็นภัยต่อร่างกายอย่างร้ายแรง และอาจจะเป็นจุดเริ่มของโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ เชื้อราในลำไส้ ท้องอืด ผายลมแล้วมีกลิ่นเหม็น มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก ริดสีดวงทวาร เป็นต้น ดังนั้นการกระตุ้นการขับถ่ายให้เป็นปกติด้วยใยอาหาร จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่แนะนำ เนื่องจากเป็นโภชนาการที่ถูกต้อง

มีบทความทางการแพทย์มากมายได้กล่าวถึงบทบาทของใยอาหารต่อสุขภาพของมนุษย์ สรุปได้ดังนี้
- ช่วยในการขับถ่ายของลำไส้ใหญ่
- ช่วยป้องกันและรักษาอาการท้องผูก ริดสีดวงทวาร
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก
- มีประโยชน์ในการควบคุมระดับกลูโคสและไขมันในเลือด
- ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและการทำหน้าที่ของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ใหญ่ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค ช่วยทำให้เยื่อบุผิวของลำไส้แข็งแรง
            นอกจากนี้การรับประทานใยอาหารร่วมกับอาหารสุขภาพอื่น เช่น คลอโรฟิลล์ ก็จะช่วยผสานประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพราะ คลอโรฟิลล์สามารถต้านพิษ หรือยับยั้งการทำงานของสารพิษในการก่อมะเร็งได้หลายชนิด

ชา 4 ชนิด

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ คลอโรฟิลล์

สรุปคุณสมบัติของ คลอโรฟิลล์

มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) 
มีฤทธิ์ในการต้านสารพิษในการก่อมะเร็งต่าง ๆ เช่น มะเร็งตับ และมะเร็งเต้านม 
ช่วยในการขับสารพิษ ในเลือด 
มีฤทธิ์ลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ 
สรุปคุณสมบัติของ โอลิโกฟรุคโตส 
เป็น Probiotics ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย 
ช่วยควบคุม/กำจัดปริมาณจุลินทรีย์ก่อโรคในร่างกาย 
ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น มีกลไกช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้ใหญ่ 
ช่วยลดสารพิษหลายชนิดที่อาจสะสมตามผนังลำไส้ 
ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน 
ป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย 
ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย

แอปเปิ้ล มีสารประเภท Polyphenol (โพลีฟีนอล) เป็น Phytonutrient ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ

สมุนไพร 39 ชนิด ปัญจะ ภูตะ

อาการที่บ่งบอกว่าระบบในร่างกายขาดความสมดุล มีหลายประการดังนี้

- รู้สึกไม่ค่อยแข็งแรง ทั้งๆที่ไม่ได้ป่วยหรือมีโรคประจำตัว

- นอนหลับไม่สนิท หรือมักตื่นกลางดึก

- รู้สึกเพลียในตอนเช้า ทั้งๆที่ ไม่ได้อดนอน

- หงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย

- เป็นสิวเรื้อรัง ผิวพรรณหม่นหมอง

- ท้องเสียสลับกับท้องผูกอยู่บ่อยๆ

สามารถดูแลตัวเองเพิ่มเติมได้ง่ายๆ ด้วยสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการปรับสมดุล หยิน-หยาง ให้ร่างกายกลับมามีความสมดุลได้ตามปกติ ด้วยเครื่องดื่มสมุนไพร 39 ชนิด ปัญจะ ภูตะ ดื่มเพียงแค่วันละ 30 ซีซี ก่อนอาหาร จะรู้สึกถึงความสดชื่น สมดุล สบายกาย 

ผลลัพธ์จากการทานปัญจะ ภูตะ https://www.youtube.com/watch?v=UDykzplm4HM
สรรพคุณและส่วนผสมของปัญจะ ภูตะ https://www.youtube.com/watch?v=l07PWH4xasE

เคล็ดลับการดื่มปัญจะ ภูตะ แบบอร่อย ชุ่มคอ ให้ดื่มปัญจะ ภูตะ ก่อนแล้วตามด้วยน้ำทับทิม ค่ะ

โลชั่นและครีมกันแดด

แสงแดด ศัตรูร้ายของผิว
แสงแดด ประกอบไปด้วยรังสีต่างๆ ที่ทำร้ายผิว ไม่ว่าจะเป็น 
UVA รังสีที่สามารถผ่านผิวหนังได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ทำลายเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้เกิดการแก่ก่อนวัยและยังเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
UVB รังสีที่สามารถผ่านได้เพียงชั้นหนังกำพร้า และชั้นตื้นๆของหนังแท้ แต่มีผลให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมาปกป้องผิวเพิ่มขึ้น อันเป็นสาเหตุให้สีผิวคล้ำขึ้น
อินฟราเรด รังสีความร้อน ที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง แสบแดง จากการถูกแดดเผา ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ส่งสัญญาณกระตุ้นให้เกิดผิวคล้ำเสียได้เช่นกัน
ดังนั้น เราจึงควรปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในทุกเช้า และอย่าลืมที่จะดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ อาฟเตอร์ซัน(After Sun) เพื่อปกป้องผิวจากการถูกทำลายด้วยรังสีความร้อน
เทคนิคในการเลือกผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่าการปกป้องผิวจากแสงแดดที่เหมาะสม โดยพิจารณาจาก ค่า SPF และ PA 
ค่า SPF หมายถึง ค่าที่แสดงถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVB ค่า SPF ที่เหมาะสมในชีวิตประจำวัน คือ SPF ประมาณ 20-30 แต่ถ้าหากต้องเผชิญแสงแดดจัดเป็นเวลานาน อาจเลือกกันแดดที่มีค่า SPF สูงขึ้น เช่น 70-99 เป็นต้น